จากเด็กเมืองสู่เด็กฟาร์ม... ที่อุปซอลา, สวีเดน ภาค 1 / Deep in the Woods in Uppsala, Sweden PART 1

October 22, 2015

Deep in the Woods in Uppsala, Sweden 
Part 1 (The Starting!) 

จากเด็กเมืองสู่เด็กฟาร์ม... ที่อุปซอลา, สวีเดน ภาค 1 

ความเดิมตอนที่แล้ว (เพิ่งมาถึง) : http://mayajett.blogspot.com/2015/10/0-deep-in-woods-in-uppsala-sweden-part-0.html



เมื่อมาถึงฟาร์ม ลงจากรถปุ๊บ เราก็ได้พบกับเพื่อนใหม่มากหน้าหลายตา คือน้องหมาทั้งหลายนั่นเอง เราดีใจมากที่ได้มาอยู่ที่ๆ มีสัตว์ มีธรรมชาติ และมันก็คือสิ่งที่เราเลือกอยากมาตั้งแต่แรก ที่บ้านฟาร์มนี้มีพื้นที่เยอะและกว้างพอสมควร มีทั้งโรงเลี้ยงสัตว์ โรงเก็บของ บ้านสามหลัง และพื้นที่สำหรับคอกสัตว์ต่างๆ เช่น แกะ หมู อะไรประมาณนี้ บ้านของโฮสจะเป็นบ้านหลักที่หลังใหญ่ที่สุด ไม่ได้ใหญ่มากแบบเว่อร์วังอะไร ส่วนบ้านของเราเป็นบ้านค็อทเทจหลังเล็กๆ ไม่ได้เล็กมาก เพราะเรามาคนเดียว ถือว่าใหญ่เกินไปสำหรับหนึ่งคนด้วยซ้ำ วิคเตอร์ช่วยยกกระเป๋าเดินทางของเราลงจากรถ แล้วเราก็เข้าไปในบ้านค็อทเทจที่เราจะอยู่ “นี่เป็นบ้านที่เธอจะอยู่ ลองเข้ามาดูสิ” เปตราพูด 

The little cottage I'm staying (Alone)
นี่คือบ้านที่เราอยู่ มองจากมุมบ้านโฮส

เราเดินเข้าไปกันทั้งหมด ทั้งเปตรา วิคเตอร์ แฮร์รี่ และหมาๆ ทั้งหลาย ทุกคนต่างต้อนรับกันเป็นอย่างดี ข้างในบ้านมีโซนที่เป็นเหมือนห้องนั่งเล่น คือห้องใหญ่ก่อนจะเดินเข้าไปเป็นห้องนอน ตรงห้องใหญ่นี้เปตราเล่าว่าที่นี่ใช้เก็บพวกขนแกะและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะใช้ถักผ้าไหม หรือที่เรียกกันว่า Wooling อะไรประมาณนี้ เปตรามีงานอดิเรกคือถักไหมพรมและทำไหมพรมจากขนแกะที่เธอเลี้ยงเอง ซึ่งฟังดูแปลกและน่าตื่นเต้นสำหรับเด็กไทยอย่างเรามาก 

The living room in the cottage
(โซนห้องนั่งเล่น)

เปตราเดินนำพาเราเข้าไปดูห้องนอน แล้วเราก็ต้องประหลาดใจกับเตียงไซส์ใหญ่ที่ดูนุ่มนิ่มน่านอนมากๆ ในห้องนอนดูอบอุ่น มีเตียงใหญ่ มีโต๊ะข้างเตียง ที่ไม่กว้างมากเพราะเตียงใหญ่ แต่เรารู้สึกดีใจมากที่จะได้มีที่นอนอุ่นๆ น่านอนแบบนี้ เราเอาของมาเก็บและจัดของนิดๆ หน่อยๆ ดีใจที่หน้าห้องนอนมีโต๊ะให้นั่งเขียนอะไรเล่นๆ ได้ แถมยังมีเครื่องเล่นซีดีอีก (พอดีกับที่ซื้อซีดีมาหลายแผ่นจากสต๊อกโฮล์มเลย) 

The bedroom + comfy bed
ห้องนอน อาจดูไม่ชัดเพราะถ่ายจากด้านนอก
แต่เตียงนิ่มนอนสบายมากกกก

สักพักพออะไรเข้าที่คร่าวๆ แล้ว เราก็เดินไปยังบ้านใหญ่ของเปตรา เธอพาเราเข้าบ้านและแนะนำสิ่งต่างๆ และห้องต่างๆ ในบ้าน ทีแรกที่ก้าวเข้าไปในบ้านเราเกิดความรู้สึกแอบอึ้งเล็กน้อยกับความรกและไม่เป็นระเบียบ ของทุกอย่างกระจัดกระจายตามพื้น หมา แมว เดินให้วุ่น (แมวเยอะมาก ลูกๆ เต็มเลย และน่ารักมากกกกก) ทุกสิ่งคือดูแรนด้อมมากกกกกกกกกกกก แรนด้อมแบบที่คิดว่าตัวเองแรนด้อมแล้วมานี่ก็ยังอาย เปตราพาไปดูห้องครัว ห้องนั่งเล่น พาขึ้นชั้นสอง ดูห้องน้ำ พาไปดูห้องแฮร์รี่ (อันนี้พีคสุด) เพราะห้องน้องคือรกมากกกกกกก รกแบบทุกสิ่งทุกอย่าง ของเล่นทุกอย่างที่เคยมีในชีวิตน้องคืออยู่ที่พื้น แทบไม่มีทางเดิน แต่น้องยังนอนกับพ่อแม่อยู่ เลยเข้าใจได้ถ้าจะปล่อยให้รกขนาดนี้ เพราะถ้าให้นอนในนี้คงไม่ไหวมั้ง 555 และสุดท้ายก็เป็นห้องนอนของโฮส เปตรา และปีเตอร์ ซึ่งตอนนี้ปีเตอร์ไปทำงานยังไม่กลับ เดี๋ยวเราจะได้เจอกับเขาตอนเย็นๆ 

One of the little kitties!

เมื่อแนะนำบ้านและทำความคุ้นเคยกับน้องหมา น้องแมว เสร็จแล้วเราก็ประเดิมด้วย “Fika” ฟิก้า ซึ่งใครมาสวีเดนไม่รู้จักฟิก้าไม่ได้ ฟิก้าเหมือนเป็นธรรมเนียมของคนสวีเดนที่จะมีพักดื่มกาแฟกับขนม คุกกี้ อะไรก็ว่าไป หรือถ้าไม่ใช่กาแฟก็อาจจะเป็นชา น้ำผลไม้ เครื่องดื่มเบาๆ ชิลๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคนสวีเดนดูจะภูมิใจมากเวลาพูดถึงฟิก้า และเป็นทุกคนจริงๆ เราดื่มกาแฟที่เปตราทำให้ เป็นกาแฟดำเข้มๆ ไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล เข้มฉบับสวีเดนที่แท้จริง เราไม่ได้เป็นคนติดกาแฟ แต่ไม่ปฏิเสธที่จะลอง ซึ่งพอได้ลองแล้วก็... อืม จืดและขม เข้มสุดๆ ซึ่งมันแปลกใหม่ดี แต่ก็ไม่ได้ไม่ชอบ เราหิวนิดๆ เพราะวันนี้ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไร เลยเอาแซนด์วิช (ที่ได้มาจากมื้อเย็นที่ซาร่าพาไปกินเมื่อวาน แล้วไม่หมด) มากิน วิคเตอร์บอกว่าเขามักจะหิวบ่อยๆ เลยมีมื้อกลางวันที่ทำเองทุกวัน ซึ่งตามปกติของที่บ้านนี้จะไม่กินมื้อกลางวันกัน ซึ่งเราคงอยู่ไม่ได้แน่นอน เราเลยรู้สึกดีใจที่มีเพื่อนใหม่เป็นพ่อครัวคอยทำอาหารกลางวันกินทุกวัน และมื้อกลางวัน -วิคเตอร์จะกินมื้อกลางวันตอนบ่ายสองทุกวัน มื้อนี้ เป็นการเอาผักต่างๆ มาผัดกับเนย มีแฮมที่วิคเตอร์ซื้อมาจากสเปนนิดหน่อย อร่อยไม่เบาเลย 

Feels like home
มองจากมุมบ้านโฮส ด้านซ้ายบ้านหลังเล็กวิคเตอร์อยู่ 
กลางเป็นโรงเก็บของ ขวาโรงเลี้ยงสัตว์

หลังจากทำความคุ้นเคยกันกับทั้งคนและสัตว์ต่างๆ ในบ้าน เราก็ตามติดวิคเตอร์ไปรอบๆ ฟาร์ม ไปดูนู่นดูนี่ วิคเตอร์แนะนำเครื่องยนต์ต่างๆ ที่ใช้ในฟาร์ม อุปกรณ์ และที่เก็บของต่างๆ เราหลงรักฟาร์มนี้ได้อย่างง่ายดายเพราะบรรยากาศที่เป็นฟาร์ม แบบ Hay Day (อ้อ ลืมบอกไปว่าเปตราก็เคยเล่าให้ฟังว่านางเคยติดเกม Hay Day ในไอโฟน -เกมสร้างฟาร์ม เลี้ยงสัตว์ปลูกผัก ซึ่งเป็นเรื่องที่เราตลกมาก เพราะชีวิตจริงๆ ของเปตราก็เหมือนในเฮเดย์ไม่มีผิดเพี้ยน) ที่บางครั้งเวลาไก่ออกไข่ หรือมีขนแกะ มีอะไรก็ตาม เพื่อนบ้านจะขับรถ ไม่ก็เดินเข้ามาหาเพื่อถามถึงของเหล่านั้น และซื้อ/แลกเปลี่ยนกัน เรารู้สึกว่ามันช่างเป็นชีวิตที่น่ารักจริงๆ เด็กเมืองๆ อย่างเราได้ยินเรื่องแบบนี้แล้วก็ชอบใจไม่เบา แถมที่ชอบใจที่สุดคือคนที่มีฟาร์มเองจริงๆ ก็ติดเกมเฮเดย์ที่จำลองชีวิตเขาลงไปในเกมเช่นกัน 

My favorite pic 
ภาพถ่ายมุมหนึ่งจากฟาร์ม

เอาล่ะ.. เมื่อเราทำความคุ้นเคยกับฟาร์มไปเรียบร้อยแล้ว เปตรากับวิคเตอร์ก็ชวนเราไปปฏิบัติภารกิจ (แรก) สำหรับเรา นั่นก็คือ ไปให้น้ำสัตว์ การให้น้ำสัตว์ใหญ่ๆ และหลายๆ ตัวไม่ใช่เรื่องง่ายแบบเปิดน้ำก๊อกให้หมากิน แต่คือเราต้องเอาแทงค์น้ำพลาสติกใหญ่ๆ ไปเติมน้ำ ไม่ต้องเต็มมากแค่ 1/4 ของถัง ส่วนสิ่งที่ใช้บรรทุกถังทั้งเวลาไปเติมน้ำและให้สัตว์ก็คือ รถ ATV จอมซิ่งนั่นเอง เปตรามองที่รองเท้าเราแล้วถามเราว่าใส่รองเท้านี้ไปจะโอเคหรือเปล่า มีรองเท้ามาเปลี่ยนมั้ย เราตอบแบบเขินๆ แต่มั่นใจ ว่าไม่มีค่ะ เอารองเท้านี้แหละลุยไป เพราะตั้งใจว่าซื้อเจ้าคู่นี้มาเพื่อลุยในฟาร์ม ส่วนที่เลือกสีขาว ก็เพราะว่าชอบ และราคามันก็ถูกแสนถูกก็เลยไม่คิดเสียดายมากหากมันจะดำหรือเปื้อนแค่ไหน (แต่นั่นคือการคิดผิดอย่างมหันต์ เมื่อไอ้คู่ขาวคู่นี้ต้องกลายเป็นคู่สีน้ำตาลไปโดยปริยายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงให้หลัง) 

My sneakers was SO WHITE before and after
รองเท้าคู่ใจ ดูว่าขาวแค่ไหน อันบนคือตอนแรกสุด อันล่าง...

เราไปเติมน้ำ และโดดขึ้นรถเอทีวีที่มีเปตราเป็นคนขับ และวิคเตอร์เกาะอยู่หลังรถ พอสตาร์ทรถกำลังจะออก เจ้าหมาน้อยสองตัว แซลลี่ และดีเซลก็รีบวิ่งมาและกระโดดขึ้นตักเปตราจะไปด้วย และพวกมันก็ไปด้วยจริงๆ แต่ไปจริงๆ มีแค่ดีเซล เพราะมันเป็นหาตัวเล็กไซส์มิเนียเจอร์ / ชิวาว่าอะไรประมาณนั้น และพระเอกของฟาร์มคือเจ้ามัฟฟิ่น หมาต้อนแกะของเปตรานั่นเอง ตอนนี้ที่ฟาร์มฝนเริ่มตก อากาศเริ่มหนาวขึ้น ฝนตกไม่หนักมากแต่เราก็ไม่ค่อยมั่นใจกับสภาพรองเท้าที่ขาวจั๊วะแบบนี้ ถึงจะซื้อมาเพื่อทริปนี้ก็เถอะ แต่มันข๊าวขาวและเราก็ชอบมันมากเกินกว่าจะทำใจได้ถ้าต้องให้มันดำ แต่ก็นะ.. ทำไงได้ล่ะ ฝนยังคงตกลงมาปรอยๆ ดีที่เรามีเสื้อแจ๊คเก็ตอีกตัวที่มีฮู้ดและหนาพอสมควร ก็เลยกันลมและกันฝนได้บ้าง ระหว่างทางที่เปตราซิ่งเอทีวีพาพวกเราไปยังคอกวัวและแกะ (เปตราต้องขอเช่าที่และมีที่ของเธอเองอยู่ไม่ไกลจากฟาร์มนัก เพราะในฟาร์มเราที่เต็มหมดแล้ว เวลาจะให้น้ำพวกสัตว์เหล่านี้เลยต้องนั่งรถมาแบบนี้ ซึ่งไม่ได้ลำบากอะไรนัก วิถีชีวิตคนฟาร์มๆ เขาก็เดินทางไปไหนมาไหนใกล้ๆ กันอยู่แล้ว) ด้วยความที่ฝนตมาได้สักพัก พื้นเลยแฉะ และพอแฉะ บางทีมีหลุมและรถตกหลุม (เล็กๆ) น้ำโคลนๆ ก็จะกระเด็นขึ้นมา โดนกางเกงบ้าง เสื้อบ้าง รองเท้าบ้าง แง! แต่ก็บอกกับตัวเองด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นว่า...การผจญภัยครั้งใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว

และแล้ว สถานีแรกที่เรามาถึง ก็คือ... คุณวัว สเตชั่น เราทึ่งกับภาพที่เห็นมาก เพราะมันสวยงามมากกกกก สวยมากกกกกกแบบอึ้งมาก แทบจะกรีดร้องออกมาเป็นภาษาสวีเดน (แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าต้องพูดว่าอะไร) คือภาพที่เห็นคือทุ่งกว้างๆ สีเขียวอ่อน มีอ่างอาบน้ำที่ไม่ใช้แล้วเอาไว้ใส่น้ำให้วัว และมีต้นไม้ต้นใหญ่ๆ อยู่ตรงกลางทุ่ง ทีแรกก็ยังไม่เห็นอะไร แต่สักพักเจ้าวัวก็เริ่มยื่นหน้าสลอนกันออกมาทักทาย และค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ๆ ที่ๆ พวกเราจอดรถ เปตราให้วิคเตอร์ปิดวงจรไฟฟ้า (ที่นี่ใช้รั้วไฟฟ้ากั้นคอกสัตว์กัน ซึ่งสัตว์จะรู้ดีว่าไม่ควรเข้ามาใกล้ และโวลต์เป็นกำลังต่ำ จึงไม่มีผลถึงตาย) วิคเตอร์ทำอย่างคุ้นเคยและเอารั้วออก ทีนี้พวกเราจึงเดินเข้าไปได้ แต่เจ้าวัวพวกนี้ไม่ค่อยเฟรนด์ลี่มากเท่าไหร่ ไม่ได้ทำร้ายคน แต่มันไม่เล่นด้วยเฉยๆ เลยไม่ได้มีโมเมนต์ที่พวกเราจะไปลูบหัวหรือหยอกล้อมัน 

My best view of Uppsala...
วิวแบบนี้แหละ... (รูปจากวันอื่นที่เอามือถือติดไปด้วย) 
สวยมาก สวยมากแบบไม่ไหวแล้ว

วัวตัวแม่ชื่อโรซ่า เป็นชื่อเดียวที่เราจำได้ นอกนั้นเป็นลูกๆ ของโรซ่า น่ารัก และชอบร้องตามแม่ สัตว์พวกนี้ฉลาด เวลาพวกเรามา มันจะร้องเหมือนการทักทาย เราเปิดน้ำเติมใส่อ่างอาบน้ำอันนั้น... หลังฝนตกวิวทุกอย่างสวยงามและสดชื่นจริงๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตกหลุมรักสวีเดนมากขึ้นไปอีกสิบเท่าเมื่อมาถึงฟาร์มนี้ พอให้น้ำวัวเสร็จเราก็นั่งรถต่อไปที่สถานีต่อไปคือ แกะ สเตชั่น พอไปถึงเราเห็นแต่ทุ่งโล่งๆ ไม่มีอะไรเลย เปตราบอกว่า รอดูอะไรนี่นะ.. พลางร้องบอกให้มัฟฟิ่นทำตามคำสั่งอะไรบางอย่าง (ที่เป็นภาษาสวีเดน) และบอกให้เรามองไปที่หินก้อนใหญ่ที่อยู่ตรงกลางทุ่งนั้น เราก็รอดูมัฟฟิ่นวิ่งเลาะรั้วไปเรื่อยๆ และพอมันหายไปหลังหินก้อนใหญ่นั้น แกะนับสิบๆ ตัวก็รีบวิ่งกันออกมา เป็นภาพที่น่ารักมากๆๆๆ และเราไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ทุกอย่างดูใหม่ ร่าเริงสดใจ น่าทึ่งสำหรับเรามาก เราให้น้ำแกะกัน ใส่ในถังเล็กถังใหญ่ที่วางไว้รอบๆ เอทีวีที่เราจอด แต่เราแอบประสบปัญหานึงคือพื้นแฉะและขี้แกะเยอะมากกกกกที่พื้น แอบร้องไห้เบาๆ ในใจกับการจากไปของสีขาวในร้องเท้าคู่ใจ แถมเหยียบขี้ไก่อีกเอ้า เอาวะ เป็นไงเป็นกัน เลือกมาฟาร์มก็แปลว่าเลือกแล้วที่จะมาลุย แมนๆ คุยกัน!!! ต้องสู้

Muffin the sheep dog (the best dog ever!)
มัฟฟิ่นพระเอกของพวกเรา

หลังจากเสร็จภารกิจ เรากลับไปที่บ้านฟาร์ม ปีเตอร์โฮสคนพ่อ (สามีเปตรา) กลับบ้านมาแล้ว เราไปทักทายเขาและทำความรู้จัก และ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พักผ่อนนิดหน่อยก่อนเวลาอาหารเย็น ระหว่างนั้นเราก็ไปนั่งคุยกับวิคเตอร์ ทำนู่นนี่ไปตามประสา และมื้อเย็นมื้อนี้ก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก สวีดิชีทบอล ของโปรดที่เราชอบมาก (เพราะเคยกินที่อิเกีย) และนี่เป็นสวีดิชมีทบอลของสวีเดนที่ทำโดยคนสวีเดนที่แท้จริง... อร่อยมากกกกกก มากจนลืมไม่ลงเลย :) 

Swedish meatball

My all time favorite!!

มื้อเย็นเป็นมื้อที่เราทำความรู้จักกันกับทุกคนอีกครั้ง เราคุยกันนู่นนี่ คุยถึงเรื่องเมืองไทย เปตราเคยมาเมืองไทยมาทำงาน อยู่สักสองสามเดือน แต่เธออยู่ที่หัวหิน แต่แค่นั้นเธอก็ชอบเมือแงไทยสุดใจแล้ว แถมซื้ออะไรจากเมืองไทยมาเยอะแยะ เค้าว่ากันว่าคนสวีเดนรักเมืองไทยมาก และไทยก็เป็นที่ยอดฮิตของคนสวีเดนเวลาหน้าหนาวคนจะหนีหนาวมาพึ่งร้อนที่นี่ เรากินมีทบอลกันอย่างเอร็ดอร่อยกับมันฝรั่งต้ม น้ำ (คล้ายๆเกรวี่) ราด พร้อมด้วยแยมลิงกอนเบอร์รี่ อร่อยมากๆ แบบบอกไม่ถูกเลย หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จแล้วเราก็แยกย้ายไปพักผ่อน ไปอาบน้ำ และก่อนจะไปนอนเราแวะไปหาวิคเตอร์ที่บ้านเล็กๆ ของเขา : บ้านวิคเตอร์เป็นบ้านค็อทเทจหลังเล็กกว่าเราครึ่งนึง มีซาวน่า (ที่ยังซ่อมไม่เสร็จ) มีห้องน้ำที่กำลังสร้าง และโซนห้องนอนที่น่านอนมาก ไม่บ่อยนักที่เราจะไปหาชายหนุ่มในห้องหรือในบ้านแบบนี้ แต่ในฟาร์มนี้เรามีกันอยู่สองคน เป็น Volunteer หัวอกเดียวกันที่มีอะไรก็จะช่วยเหลือและแนะนำกัน วิคเตอร์หยิบนู่นนี่ให้ดู เขามีหนังสือการ์ตูน มีกีต้าร์ไฟฟ้า มีตุ๊กตาและของเล่นนิดหน่อยตามประสาเด็กผู้ชาย (นางอายุ 22)

Victor slays his guitar

 เราคุยกันนู่นนี่นั่น บ่นเรื่องไวไฟใช้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเรามีเน็ตในมือถืออยู่แล้ว คุยกันไปสักพักวิคเตอร์ก็เล่นกีต้าร์ให้ฟัง ฝีมือใช้ได้เลย และเราก็เล่นให้วิคเตอร์ฟังหนึ่งเพลง เป็นเพลงที่แต่งเองและร้องเอง เพลงชื่อว่า ‘Sleep’ ใครติดตามเพจหรือวิดีโอเราอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง... เราเพลิดเพลินกับการคุยกับวิคเตอร์ และรู้สึกแปลกใหม่ แปลกใจที่เราเอาตัวเองมาอยู่ที่ประเทศนี้ ที่เมืองนี้ และที่ฟาร์มนี้ บ้านนี้ เรามองออกไปนอกหน้าต่าง ฟ้ายังคงเป็นสีฟ้าอ่อนปนเข้ม นี่เป็นเวลาสามทุ่มกว่าๆ ถ้าเป็นเมืองไทยคงจะมืดสนิทไปนานแล้ว... เราชอบสวีเดนจัง อยู่ๆ ก็รู้สึกอย่างจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไปนานๆ ขึ้นมาซะงั้น 


รักสวีเดนจังเลย :) 

ติดตามตอนต่อไปได้เร็วๆ นี้ 
เราจะแนะนำเจ้ากระต่ายทั้งหลาย และเรื่องสยองๆ ในฟาร์มให้ฟัง

จะว่าไป อ่านตอนก่อนหน้านี้รึยังเอ่ยยยยยย...

ตอนที่ 0 (แรกสุด)

ตอนที่ 1-1

ตอนที่ 1-2

ตอนที่ 1-3 (เรื่องรักๆ ตอนแรกสุด)

ตอนที่ 1-4 (เรื่องรักๆ ตอนที่สอง)

จากเด็กเมืองสู่เด็กฟาร์ม... ที่อุปซอลา, สวีเดน ภาค 0










You Might Also Like

0 comments