ชีวิตน่ารักๆ ในฟาร์มที่อุปซอลา, สวีเดน / Deep in the Woods in Uppsala, Sweden PART 2

November 18, 2015

Deep in the Woods in Uppsala, Sweden PART 2 
Never trust Swedish’s summer weather!

วันไหนแดดดี อย่าหลงเชื่อมันเด็ดขาด...

Mazarin, the boss

มาอยู่นี่ได้ไม่กี่วัน เผลอติดคำว่า “ใช่” ภาษาไทยนี่แหละ และคำว่า “เฮโดว์” (ใครไปอิเกียบ่อยน่าจะจำได้ มันแปลว่าบ๊ายบาย) เฮโดว์ยังพอว่า ใช้กับคนสวีเดนได้ตลอดเวลาจากกัน แต่คำว่า ใช่ นี่สิ ติดปากแบบเผลอพูดออกมา แล้วก็ต้องนึกได้ว่าไม่ได้พูดกับคนไทย เลยต้องพูดคำว่า Yeah.. ไปอีกครั้งนึง

Our farm :)

Chickens

ชีวิตที่บ้านฟาร์มสุขสบายดี เราปรับตัวให้ชินกับสภาพอากาศที่ไม่ได้หนาวมากไป และไม่ร้อนมากไป ของหน้าร้อนสวีเดนได้ไม่ยาก เพราะโดยส่วนตัวเป้นคนขี้ร้อน และชอบอากาศเย็นๆ แบบนี้ ไม่แน่ใจว่ามันร้อนสำหรับเขาหรือเปล่า แต่บางวันเย็นจริงๆ แบบว่า 11-15 องศา เราก็ใส่แจ๊คเกตกันแล้ว อยู่แบบสบายๆ วันไหนแดดออกอย่าไปหลงเชื่อมาก เผลอพูดออกไปว่าเฮ้ยวันนี้อากาศดี แดดสดใสทีเดียว แต่วิคเตอร์เตือนไว้ว่า อย่าเอ็ดไป.. อย่าหลงเชื่ออากาศที่สวีเดนเด็ดขาด เพราะมัน unpredictable มาก และเราก็ได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนเช้าแดดออกสดใส ชื่นใจ คนที่นี่จะมีความสุขมากเวลาแดดออก เพราะบ้านเค้าหนาว วันไหนมีแดดคือนิพพานเลย แต่สักพักฟ้าเริ่มครึ้ม ตอนสายๆ ฝนตก เดาใจยากมากกกกก

เราได้เรียนรู้ว่าที่นี่ตอนหน้าร้อนพระอาทิตย์ตกตอนประมาณสี่ทุ่มถึงห้าทุ่ม (เราอาจจะเคยเขียนไปแล้วตอนที่อยู่สต๊อกโฮล์ม) แต่มันก็ยังเป็นอะไรที่น่าแปลกใจสำหรับเราตลอดเวลา เราชอบที่นั่งเล่นๆ ตอนสามสี่ทุ่มแล้วฟ้ายังสว่างอยู่ เหมือนเวลาหกโมงเย็นบ้านเรา และพอตกกลางคืนจริงๆ ฟ้าเค้าไม่ได้มืดแบบสีดำสนิท มันยังมีสำน้ำเงินเจือๆ ให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็ยังน่าประหลาดใจสำหรับเราอยู่ทีเวลานั่งกินมื้อเย็นกันตอนสองทุ่มและฟ้ายังสว่าง ฮ่าๆ ด้วยความที่พระอาทิตย์ดื้อไม่ยอมตกดิน และขึ้นเช้าตอนตีสามตีสี่ ทำให้เรามักจะตื่นขึ้นมาเองตอนตีสี่ทุกเช้า ซึ่งด้วยความง่วงแล้ว เราก็นอนต่อจ้ะ

9 PM
รูปนี้ถ่ายตอนสามทุ่มที่ฟาร์ม.. เหมือนหกโมงเย็นบ้านเรา

เมื่อใช้ชีวิตในฟาร์มมาได้สักสามสี่วัน ตอนนี้ก็รู้สึกพลาดกับสิ่งที่ไม่ได้เอามาหลายอย่างมาก เราจะลิสต์ลงมาให้ดูประมาณนี้...

  1. รองเท้าคอนเวิร์ส (หรือคู่อื่น อะไรก็ได้) เพราะตอนนี้รองเท้าผ้าใบสีขาวคู่ใจที่ซื้อมาถูกแสนถูกนั้นโดนแต้มด้วยดิน โคลน ขี้วัว ขี้แกะ และอะไรต่อมิอะไร จนกลายมาเป็นสีน้ำตาลไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นึกภาพไม่ออกว่าจะกลับไปสต๊อกโฮล์มยังไงดีถ้าต้องใส่รองเท้าเน่าๆ แบบนี้ (เมืองนี้เค้าฮิปสเตอร์เยอะ เราก็อยากคูลกับเค้าบ้าง แต่เอาเข้าจริงแล้วก็ตามนั้นเลย ถ้าไม่มีก็ช่างแม่ง ๕๕๕๕)
  2. ดีที่เอาเสื้อแจ๊คเก็ตมาเผื่อ เกือบเอาออกแล้วตอนที่แพ็คกระเป๋า โชคดีมากๆ เพราะถ้าไม่เอามาอีกตัวคือตายแน่ๆ “Never trust Swedish Summer!” จำคำนี้ขึ้นใจมาก! เพราะมีวันนึงที่อากาศหนาวมาก คนอื่นเค้าก็ไม่ได้หนาวอะไรขนาดนั้นหรอก แต่เราถึงกับหยิบแจ๊คเก็ตสองตัวที่มีมาใส่ นี่นึกไม่ออกว่าถ้าเอามาแค่ตัวเดียวจะเป็นยังไง
  3. ก่อนมาฟาร์มน่าจะซื้อขนมมาตุนเยอะๆ just in case เวลาหิวๆ ตอนเวลาว่างในฟาร์ม แต่ไปมาแล้วรอบนึงที่ ICA สองสามวันก่อน ได้ chocolate มาเยอะมาก 

อีกเรื่องที่อยากบอก ซึ่งไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ แต่มันติดใจมากจริงๆ คือคุกกี้ช็อคโกแลตชิปที่ร้าน ICA (เป็นซุปเปอร์มาร์เกตที่มีให้เห็นทั่วทุกที่ในสวีเดน) อร่อยมากกกกกกก อร่อยแบบเหลือเชื่อ

Chocolate Chip Cookies from ICA
คุกกี้ช็อคโกแลตชิปในตำนาน อร่อยเหี้ยๆๆๆ 


เราซื้อมาตอนเปตราพาไปอิก้าเพราะเราอยากซื้อขนม เราไม่รู้หรอกว่าอะไรอร่อย แต่เห็นราคาแล้วเลยอยากลอง มันเป็นคุกกี้ของอิก้าเองเลย ห่อก็ไม่ได้สวยอะไรมากแค่เพลนๆ ธรรมดา แค่บอกว่ากูเป็นคุกกี้ช็อคชิปนะ อะไรแบบนี้ แล้วราคาคือแค่ 7 SEK (ประมาณสามสิบบาทไทย) คือถูกมากกกก ตอนนั้นไม่แน่ใจความอร่อย พอถามเปตราเธอก็บอกว่าก็ดีนะ เลยหยิบมาอันเดียว ปรากฏว่าพอกลับมาที่ฟาร์มแล้วลองกิน คืออร่อยมากกกกกกก อร่อยแบบชีวิตนี้ตายไปคงคุ้ม (และหลังจากนั้นเราก็ซื้ออีกประมาณสี่แพ็คตอนไปที่เมืองคาร์ลสตัด)

I love nature in Sweden

Our home

ที่นี่ใช้ชีวิตกันเรียบง่าย ไม่มีอะไรมาก โดยรวมโฮสค่อนข้างชิลตามสไตล์คนสวีเดน เราไม่ได้รู้จักความเป็นสวีเดนมาก แต่เท่าที่เราได้ยินและสัมผัสมาเราสามารถพูดได้เลยว่าพวกเค้าน่ารัก ใจดี มีความชิลแบบคนไทย แต่ในความชิลนั้นก็มีความจริงจังที่ชัดเจนและเข้าใจได้ บางคนอาจจะดูดุในบางครั้ง แต่ก็แค่เพราะเขาพูดตรง มีความจริงจัง คนสวีเดนค่อนข้างคุยง่าย มีมารยาท ทุกคนเก่งภาษาอังกฤษ เรามักจะได้พูดคุยกันจริงจังก็ตอนมื้อเย็นที่นั่งด้วยกันทั้งหมด คุยเรื่องสัพเพเหระ เรื่องเพลงบ้าง โฮสคนพ่อ -ปีเตอร์ ชอบฟังเพลง และบางวันเราก็เอามือถือเขามาต่อกับลำโพงที่ตั้งอยู่ข้างๆ โต๊ะกินข้าวหน้าบ้าน ฟังเพลงกัน จุดเทียน บรรยากาศดีขึ้นเยอะเลย ที่เราชอบมากๆ คือเวลาเปิดเพลงคันทรี่เก่าๆ เด๋อๆ คือบรรยากาศดีจริงๆ บางคืนเราถึงกับคิดขึ้นมาในใจว่า “เฮ้ย มีความสุขจังเลยว่ะ อยากมีชีวิตแบบนี้บ้างจัง” ไม่ใช่ว่าไม่รักชีวิตเราเองที่เมืองไทย แต่เรารักทุกสิ่งที่เราเจอและได้สัมผัสมัน ทุกอย่างมันช่างมีค่าและเป็นความทรงจำที่ดีจริงๆ

Viti the loving sheep

วิคเตอร์ (volunteer อีกคนที่บ้านนี้ ที่เคยได้กล่าวถึงแล้ว) เป็นหนุ่มชาวสเปนหน้าตาดี ที่เคราเยอะไปหน่อย เพราะนางบอกว่าช่วงนี้ทดลองไว้เคราเยอะๆ ดูว่าจะเป็นไง ปกติไม่ได้มีเยอะขนาดนี้ (จากที่ดูคือถ้าโกนออกหรือเหลือไว้นิดหน่อยนางจะหล่อมาก) วิคเตอร์เป็นคนอารมณ์ดี ทำงานเก่ง อาจเพราะเขาอยู่บ้านนี้มาได้สักพักแล้วเลยดูเหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งในสมาชิกครอบครัวนี้บบสนิทสนม และเหมือนเป็นพี่ชายของแฮร์รี่ (ลูกชายของเปตรากับปีเตอร์) ในบางมุม อาจเพราะวิคเตอร์พูดภาษาสวีเดนได้ในระดับนึง ก็แปลกดีตอนที่เลือกโฮส เราเคยถามโฮสบางคนว่ามี volunteer คนอื่นไหม และมีผู้หญิงไหม? อาจจะเพราะความปลอดภัยหรือความเคยชินของตัวเอง เลยถามๆ ไว้ก่อน (แต่ความจริงเราชอบอยู่กับพวกผู้หญิงมากกว่า มันคุยกันง่ายดี แต่กับผู้ชายก็ดีคนละแบบเพราะมันไม่คิดไรมาก) แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับที่นี่ เพราะตอนติดต่อกันคือเป็นช่วงเวลาที่เราใกล้จะมาแล้ว จุดนั้นคือเป็นไงก็เอางั้นเลย เข้าใจว่าจะมีคู่รักมาทำ แต่พอมาก็เจอวิคเตอร์ (วิคเตอร์เล่าให้ฟังทีหลังว่า คู่รักคู่นั้นไปก่อนวันที่เราจะมาแค่วันเดียว เหตุผลอาจมาจากความไม่เป็นระเบียบของที่นี่... ฮ่าๆ) เราดีใจที่มาเจอวิคเตอร์เพราะเดาไม่ออกว่าถ้ามาอยู่คนเดียวจะเหงารึเปล่า เวลาว่างๆ เราก็คุยกัน กินขนมกัน บางครั้งก็นึกไม่ออกว่าถ้าไม่มีนางแล้วเราจะอยู่ยังไง เพราะเรื่องบางเรื่องวิคเตอร์ก็สอนเรา และแนะนำเราในหลายๆ อย่างในฟาร์ม ในมุมที่โฮสคงไม่สามารถบอกได้ ก็คงเป็นมุมมองของ volunteer คนนึงแหละนะ

MaZarIn

ทุกๆ วันเราจะกินมื้อกลางวันกันที่เวลาบ่ายสอง ทำอะไรกันก็ได้ วิคเตอร์เป็นพ่อครัวที่ดีและรู้จัก mix & match อาหารและวัตถุดิบต่างๆ และทำให้ออกมาอร่อยได้ เขาเล่าว่าเรียนรู้สูตรต่างๆ มาจากพ่อที่ชอบทำอาหาร งานส่วนมากในฟาร์มก็ไม่มีอะไรมาก ไม่มีมีงานตายตัวกำหนดเป๊ะๆ หรือเข้มงวดอะไรเป็นพิเศษ ดูจะชิลๆ ตามใจชอบด้วยซ้ำ แต่แค่เราต้องมี task สักอย่างในใจ แล้วทำมันให้เสร็จ อาจไม่ต้องภายในวันเดียวก็ได้ แต่ทำให้มันเสร็จ งานหลักๆ จริงๆ ที่ต้องทำทุกวันคือตื่นเช้ามาแล้วให้น้ำ ให้อาหารสัตว์ ตัดหญ้ามาเลี้ยงกระต่าย ให้น้ำไก่ เปิดเล้าไก่ให้ออกมาเดิน ให้อาหารหมูที่หิวอยู่ตลอดเวลา (ให้เช้า เย็น) หรือแม้แต่ถอนวัชพืชต่างๆ ในสวนให้เรียบเกลี้ยง งานนี้สนุกมาก เราโปรดปรานเป็นพิเศษ ไม่รู้ทำไม

Mazarin
มาซารีน แมวพี่สาวเด็กๆ ทั้งหลาย (นางเกลียดเด็กทุกตัว)

ที่นี่มีหมาทั้งหมด 4 ตัว มีมัฟฟิ่น อิเนส ดีเซล แซลลี่ ทุกตัวน่ารักมาก แต่อีตัวเล็กสุด (ดีเซล) ปากเปราะและเห่าตลอดเวลา บางครั้งก็อยากถีบมัน แต่บางครั้งมันก็น่ารักและฉลาดเหลือเกิน (เราจะเล่าเรื่องหมาและแมวให้ฟังในภาคต่อๆ ไป พวกมันมีคาแร็กเตอร์ที่น่าสนใจกันมาก) นอกจากนี้ยังมีแมวอีกประมาณ 7 ตัว ไม่แน่ใจว่าเจ็ดมั้ยแต่น่าจะประมาณนี้แหละ แมวที่สวีเดนเป็นอะไรที่ขนนิ่มมากๆๆ มากถึงขั้นอยากจับมันมาอุ้ม กอด หอมตลอดเวลาไม่ปล่อยไปไหน มันน่ารักมากๆ เป็นแมวเด็กๆ ที่เพิ่งเกิดได้ไม่กี่เดือนเอง มีตัวนึงที่น่ารักและยอมให้คนเล่นด้วยมากที่สุดคือ เปรซิล (นี่เพิ่งมารู้ว่าชื่อนางออกเสียงแบบนี้ กูเรียก บาซิล มาตลอดเลยจ้า) เวลาอุ้มเปรซิลมาเล่นหรือเกาพุง ลูบๆๆ มันจะเคลิ้มและหลับบนตักหรือในอ้อมกอดเราได้ไม่ยาก เป็นแมวที่น่ารักมากกกกที่สุดในโลก วิคเตอร์พูดว่าอยากเอามันกลับไปบ้านที่สเปนด้วย นางรักมันมาก เราก็รักมากเช่นกัน 

พูดถึงแมว บางครั้งเวลาตัดหญ้าหรือถอนวัชพืช (Weeding) เราจะชอบเจอแมววิ่งเล่นอยู่ในพงหญ้า ดงวัชพืชต่างๆ พวกลูกแมวชอบเล่นด้วยกัน วิ่งไปวิ่งมา ปีนนู่นนี่ อยู่ในวัยกำลังซนเลยล่ะ แต่ส่วนมากเวลาเจอคนมันจะชอบวิ่งหนี กวนๆ ตามประสาแมวเด็ก และหลายตัวก็กลัวคนเหมือนกัน มีอีกตัวที่เราชอบไม่แพ้กัน ชื่อว่า ฟลุฟฟลุฟ (Fluff Fluff)

Fluff Fluff the snow ball


ตัวยูของสวีเดนจะอ่านออกเสียงเป็นสระอู ไม่ฟลัฟๆ ซึ่งมันฟังดูน่ารักมาก และยิ่งน่ารักเพราะมันเป็นชื่อของเจ้าแมวตัวเล็กขนปุยสีขาว ตัวมันฟลุฟๆ เป็น snowball สมชื่อเลย 

เอาล่ะ.. จบแค่นี้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวตอนหน้าจะเล่าประสบการณ์การหลงป่าที่สวีเดนให้ฟัง
ทั้งน่ารัก น่ากลัว และน่าตกใจในเวลาเดียวกัน

God natt my love..
ราตรีสวัสดิ์


อ่านมาถึงตรงนี้กันแล้ว มีใครยังไม่อ่านตอนก่อนๆ บ้าง? 
รีบอ่านเลย ตั้งแต่ตอนแรกเลยก็ดี :)

ตอนที่ 0 (แรกสุด)
http://mayajett.blogspot.com/2015/09/mj-random-journey-europe-sweden-part-0.html

ตอนที่ 1-1
http://mayajett.blogspot.com/2015/09/mj-random-journey-europe-sweden-part-1.html

ตอนที่ 1-2
http://mayajett.blogspot.com/2015/09/mj-random-journey-europe-sweden-part-1_7.html

ตอนที่ 1-3 (เรื่องรักๆ ตอนแรกสุด)
http://mayajett.blogspot.com/2015/09/mj-random-journey-europe-sweden-part-1_9.html

ตอนที่ 1-4 (เรื่องรักๆ ตอนที่สอง)
http://mayajett.blogspot.com/2015/09/part-2-stories-of-wild-heart-in.html

จากเด็กเมืองสู่เด็กฟาร์ม... ที่อุปซอลา, สวีเดน ภาค 0
http://mayajett.blogspot.com/2015/10/0-deep-in-woods-in-uppsala-sweden-part-0.html

จากเด็กเมืองสู่เด็กฟาร์ม... ที่อุปซอลา, สวีเดน ภาค 1
http://mayajett.blogspot.com/2015/10/1-deep-in-woods-in-uppsala-sweden-part-1.html

You Might Also Like

0 comments