RANDOM COOL KIDS : WORLD TOUR PART 1 : Macau / The Venetian, Senado Square and More / เด็กกากแรนด้อมตะลุยมาเก๊า

June 22, 2014

RANDOM COOL KIDS : 
WORLD TOUR PART 1 
"MACAU"  or "MACAO"


ไฮ เพื่อนๆ ทุกคน ที่รอเราอยู่ รอรึเปล่าไม่รู้แต่ถือว่ารอแล้วกัน
ในที่สุดเราก็ได้กลับมาจากทริปกากๆ ล่าสุด คือทริป ฮ่องกง / มาเก๊า 
ซึ่งทริปนี้ เป็นทริปที่เรา และเพื่อนๆ กากๆ อีก 4 คน ได้จองไว้
กับ AirAsia เมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว จองล่วงหน้าได้ตั๋วถูก
เราจองจากกรุงเทพ ไปมาเก๊า แล้วขากลับคือ ฮ่องกง กลับกรุงเทพ 
ได้ราคาทั้งหมดคือ สี่พันสองร้อยกว่าๆ (มั้งนะเท่าที่จำได้)
ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากๆ สำหรับการไปฮ่องกง เพราะรู้สึกว่า
ราคาไปฮ่องกงปกติจะอยู่ที่ราวๆ 6-7 พันนั่นเอง 

เราได้บทเรียนมาว่า การจะจองตั๋วถูกๆ ได้ ต้องอาศัยสกิลเยอะมาก
ต้องอาศัยจังหวะ ความพร้อมของลูกทีม ว่ามึงจะไปกันมั้ยคะ สรุปว่าไง
ความเร็ว ความมีสมองฉับไว เพราะเราต้องคำนวณให้ถูก ว่าจะเอาไง
ไปวันไหน วันนี้ไม่ถูก ข้ามไปอีกวัน กลับวันไหน ต้องหาให้ได้
ในระยะเวลาที่จะไปค้าง สามวันสี่คืน อะไรประมาณนี้ 
คนที่มีประสบการณ์ในการจองตั๋วคงจะรู้ดี ว่ามันไม่ง่าย..
แต่ก็ไม่ยาก!

และแล้ว.. เวลานั้นก็มาถึง (นานมาก เป็นปี จนลืมไปแล้วว่าจะไป)
เสียดายที่ลูกทีมเรา จาก 5 คน เหลือ 3 คน
และ 3 คนที่เหลือนั้นก็... 
กากๆ กันหมดเลยจ้าาาาาาา 

[For those who wants to view the picture, click the pic to enlarge]
- คลิก ที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่ -


นี่คือโฉมหน้าเด็กกากๆ ที่แสนจะแรนด้อมประจำทริปนี้
จากซ้ายไปขวา เรา (มิ้นท์ แพร และโอ)
ซึ่งเป็นเพื่อนประเภทที่ว่า นี่พวกเราจับฉลากกันมาเหรอ 
เพราะจะต้องด่ากันตลอดเวลา กวนตีนกันตลอดทริป ราวกับว่าเกลียดกันมากๆ
แต่จับฉลากได้ เลยต้องมาด้วยกัน 5555555 เกลียดอะ

เราตื่นกันตี 2 ครึ่ง แล้วก็นัดแท็กซี่ให้มารับที่บ้านแพร ออกจากบ้านแพร
ประมาณ 3:30 น. มาถึงสนามบินประมาณ ตี4 ซึ่งเช้ามากๆ
แต่อีโอ นางยังไม่มา เลยรอด้วยความหิว จนกระทั่งนางมา
ก็ไปหาอะไรกินกันที่... ฟูจิ ที่มีราคาแพงกว่าในห้างอีก 1 เท่า

แล้วเราก้ต้องรีบไปรอขึ้นเครื่องตอน ตี 5:55 เครื่องออก 6:30 น.

เอาล่ะ เราจะไม่เล่าอะไรยาวมาก ข้ามไปตอนขึ้นเครื่องบิน
และตอนถึงมาเก๊ากันเลยดีกว่า


พอถึงมาเก๊า สิ่งที่จะทำก็ไม่ยาก จากสนามบินเราก็หารถบัสสีน้ำเงิน ที่เขียนว่า Venetian 
เพื่อที่จะไปลงที่คาสิโนสุดหรูชื่อดัง นามว่า Venetian -เวเนเชี่ยน นั่นเอง
(อีแพรเรียกว่าเวเนเทียนอยู่ได้) 

ที่นี่มีบริการรับฝากกระเป๋าเดินทางตรงล็อบบี้ด้านล่าง ฟรีค่ะ
ใครที่แบกกระเป๋าหนักๆ มา แนะนำให้ไปฝากก่อนเดินช้อปนะ


เวเนเชี่ยน เราเคยมาครั้งนึงแล้ว รู้สึกว่า อลังการงานสร้าง และสวยมากๆ
แต่พอมาถึงครั้งนี้ มันยังสวยเหมือนเดิม แต่เราไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก
และพวกกากทั้งสอง ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก อาจจะเพราะเหนื่อย 
เราเลยเดิน ถ่ายรูปไปรอบๆ แต่ไม่เน้นช้อปปิ้งอะไรเลย


นี่คือเวเนเชี่ยนในใจของพวกเรา


เพดาน
ที่นี่จะสร้างให้เหมือนกับสถาปัตยกรรมและศิลปะต่างๆ ของอิตาลี่
ซึ่งมันก็ปลอม แต่ว่ามันก็สวยไปอีกแบบ 


เรือกอนโดลา (ชื่อนี้ใช่ปะ) จำลองมา แต่ก็ดี
แต่เด็กกากอย่างเราไม่มีตังค์ขึ้น เลยมองเฉยๆ ด๊นแคร์


สวยดีจัง อิอิ


มูมินนนน

ร้านค้าต่างๆ ในเวเนเชี่ยน ไม่ได้ลดราคาเท่าไหร่ เลยรู้สึกว่าแพง
และอีกอย่าง พวกเราแลกเงินมาเก๊ามากันคนละ 100 เหรียญ ซึ่งคิดว่าจะพอ
แต่คือ.. เราหิวมาก เลยไปซื้อเบอร์เกอร์กิน ซึ่งมีราคา 45 เหรียญ.. สิ้นค่ะ
กุเหลืออีก 55 เหรียญ แค่จะซื้อน้ำ.. ราคาก็เลยละ โอ้ววววคุณพระ! 


เวเนเชี่ยนจากด้านนอก สวยมาก 
โชคดีที่วันที่เราไปถึง มีฝนตกปรอยๆ ไม่ได้ตกหนักจนทำอะไรไม่ได้ 
และพอฝนตก แดดก็ไม่ออก เลยได้บรรยากาศหมอกๆ ไม่ค่อยแสบผิวกันไป


เจอร้านกุ๊กกิ๊กน่ารัก เลยซื้อไปซะหน่อย
อุดหนุนผลงานของเท็ตสึกะ โอซามุ 


โฉมหน้าของแฮมเบอร์เกอร์ 'Fat Burger' ที่มีราคา 45 เหรียญค่ะ 
(แอบมองร้านอื่นๆ บางเมนูนาง 100 อัพ คือ.. จะไม่ใช่ชีวิตอยู่ในนี้แน่นอนค่าา)
รีบออกรัวๆ

หลังจากนั้น เราก็จะเดินทางไปยัง Senado Square ใจกลางเมืองของมาเก๊า
เราใช้วิธีนั่งรถฟรีอีกเช่นเคย คือไปขึ้นรถบัสฟรีที่ City Of Dreams 
เป็นคาสิโนอีกแห่ง ที่อยู่ตรงข้ามเวเนเชี่ยนนั่นเอง 
เราเลือกขึ้นรถที่เขียนว่า จะไป Hotel Sintra เพราะโรงแรมจะอยู่ไม่ไกล
จาก Senado Square สักเท่าไหร่ แพรได้ทำการบ้านมาอย่างดี 
คือนางปรินท์แผนที่ และข้อมูลต่างๆ ของเซนาโด้ และโรงแรมของเรา

แต่พอถึงจุดที่รถบัสจอดแล้วจริงๆ เราเงิบและงงกันมากค่ะ
เพราะไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน และพอไปถามคนขับรถ ก็เป็นอย่างที่คิด
คือ นางพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ค่าาาาาา สิ้นนนนนนนน

แต่ด้วยความกากและแรนด้อมของพวกเรา ก็ไม่ได้กลัวหลงอะไรอยู่แล้ว 
ในที่สุดเราก็จับพลัดจับผลู เดินมาเจอเซนาโด้จนได้ แต่ทีนี้ พอเจอเซนาโด้
เราก็แอบงงกับทิศนิดหน่อย ถามทางก็ยากลำบาก แถมเจอร้านค้าที่อีป้าโกงค่าน้ำอีก
(ในเซเว่นขาย 10 อีป้าขาย 18 เหรียญ โอ๊ยสิ้น)

1 เหรียญฮ่องกง / มาเก๊า คือประมาณ 4 บาทกว่าๆ ของไทย


และในที่สุด เราก็เดินมาเจอโรงแรม
ชื่อของโรงแรมที่เรามาพักคือ 5footway.inn ซึ่งมีสาขาที่สิงคโปร์ด้วย
เป็น Hostel ขนาดย่อมเยาว์ ที่พักดี สะอาดมาก เราจองไปห้องสี่คน แต่มาสาม
ในห้องมีห้องเล็กแยกไปอีกสองห้อง มีห้องละสองเตียง มีอุปกรณ์ครบ
มีห้องน้ำ มีอาหารเช้า สะอาดมาก แต่ไม่ได้ลงรูปไว้ในนี้ 
ใครสนใจจะลองไปพัก หาได้เลยใน Agoda 


แล้วเราก็พักกันเล็กน้อย คือเจอเน็ต เจอไวไฟที่ห้องแล้วไม่อยากลุกไปไหน
พอลุกออกมาก็มาที่เซนาโด้ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ บ่ายสาม 
คนยังเยอะอยู่ แล้วอากาศวันนี้ก็ร้อนอบอ้าว 


ที่มาเก๊าถ่ายรูปออกมาแล้วสวย 
เพราะบ้านเมืองจะมีความสวยงาม แบบเก่าๆ แบบจีนๆ บอกไม่ถูก
แต่สวยจริงๆ ใครไม่เคยมาก็ลองมาดูกันนะ


แล้วเราก็เดินฝ่าคนมาถึง ซากโบสถ์เซนต์ปอล ที่เลื่องลือ
ตอนนี้คนเยอะมากกกกกกก เยอะสัสๆๆๆๆ จนต้องขอยอมถอย
แล้วค่อยกลับมาอีกทีตอนค่ำๆ ค่าา


หลังจากนั้น เราก็เจอสวนสาธารณะเล็กๆ ที่มีกราฟิตี้เยอะมาก 


นางแบบก็โพสกันไป


เกร๋ๆ 


คูลๆ


เยี่ยร์


สวยมาก ชอบที่นี่


ป้าๆ แม่ๆ ลุงๆ ก็พาลูกมาเล่นกัน 
ลุงๆ บางคนก็ซื้อเบียร์มานั่งคุยกันที่นี่ ชิลไปอีกแบบ


สวยดี


แล้วเราก็เริ่มเดินรอบๆ เซนาโด้ เดินแบบไร้จุดหมาย
ไม่แคร์ว่าจะไม่หลง เพราะไม่คิดอะไรกันเลยนอกจากเดินไปเหอะ
ลองดู ลุยๆ 5555


ชอบเมืองที่นี่ สวยดี แอบนึกถึงปีนัง และภูเก็จบ้านเรา นิดๆ


บางตึกก็ทาสีสวย


มุมนี้อาหารเยอะ 


เขียนอะไร


ร้านอาหาร 


เขียนอะไร 


เด็กกากๆ 


และแล้วก็เดินมาถึงที่นี่ ไม่รู้ว่าใช่ที่เค้าเรียกว่า Red Market รึเปล่า?
เพราะมันแดงๆ ประตูบ้านก็แดงกันทั้งถนน ชอบมาก 


เราเจอร้านขายชานม ที่พนักงานคนนี้เป็นคนพม่า ที่พูดไทยได้ นิโหน่ย


เดินต่อไป


มุมนี้ชอบมาก 


แล้วเราก็เดินมาเจอ ถนนคนเดิน 


มีอาหารขายประปราย ตอนเดินไปถึงเค้ากำลังจัดของกันอยู่
ประมาณว่า ตลาดกำลังจะเปิด 


แล้วเราก็เดินมาเจอ เทศกาลเล็กๆ เหมือนมีงานออกร้าน ของทำมือ
ลองเดินๆ ดู ไม่ใหญ่มาก และร้านแต่ละร้านก็จะเป็นพวกวัยรุ่น 
ที่ทำของมาขาย มีป้าๆ บ้างประปราย
แต่เท่าที่ดู เราว่าพวกขายของทำมือที่เมืองไทยน่ารัก และมีกิมมิคมากกว่า 
เรานึกถึงงานกิฟท์ที่ศิลปากร อันนั้นคือของหลากหลายและดีมาก
แต่สำหรับที่นี่ ไม่ได้จะว่านะ เราคิดว่ามันออกจะน่าเบื่อไปหน่อย
และของบางอย่างไม่ได้มีกิมมิคมาก เช่น ร้อยหนังยางเป็นสายรัดข้อมือ
ทำสร้อย ถักตุ๊กตา ออกจะเรียบๆ ง่ายๆ ขายโปสการ์ดบ้าง เราเลยไม่ได้ซื้ออะไร


แต่พี่แพรเค้าซื้อค่ะ เราได้ไปคุยกับร้านนี้ นางขายพวกแกะสลักยางลบ 
แกะสลักตัวปั๊ม น่ารักดี 


ลองดูใกล้ๆ


แถมโปสการ์ดให้ด้วย


งานเพิ่งเริ่มเลยเงียบๆ 


อีกมุมหนึ่ง


ถ่ายกันซักหน่อย 


เราสองสามคน


อาหาร


และหลังจากเดินๆ กันรัวๆ แล้ว เราเลยหาร้านกิน
ซึ่งตอนที่อยู่แถวเซนาโด้ เราไม่รู้ว่ามีร้านอาหารที่ไหน
และด้วยความกาก เราไม่ได้หาข้อมูลเรื่องร้านอาหารมาเลย
เลยหาร้านไม่ค่อยเจอ เลยเดินไปเรื่อยๆๆ จนเจอร้านนึง ไม่คิดไรมาก เข้าเลยค่ะ


อาหารอยู่ที่ราคา 20 กว่าๆ ถึง 50 เหรียญ ซึ่งไม่แพงมาก
เราสั่งกันแบบ ไม่เห็นรูปอะ กูจะรู้ไหม (ให้อารมณ์แบบพวกฝรั่งมากินร้าน
ตามสั่งในไทย ที่บางร้านมีเมนูภาษาอังกฤษ แต่ไม่มีรูป) 

จากรูปข้างบน เป็นหมี่เลี่ยนๆ กับเนื้อ อร่อยแต่เลี่ยน


เราสั่งข้าวไข่(นิ่มๆไม่ถึงกับไข่เจียว) ใส่กุ้งสับ อร่อย แต่ให้ข้าวเยอะมากกินไม่หมด


จานนี้ข้าวผัดกับอะไรสักอย่าง ก็อร่อยดี


แล้วเราก็ต่อกันด้วย เบียร์ที่แสนจะถูกกก ถูกกว่าน้ำเปล่าอีก
เพราะราคาแค่ 4 หรือ 5 เหรียญ นี่แหละ คือเบียร์ชิงเต่า
ที่แสนจะฮิตนั่นเองงงงงงงงงง อร่อยอะ อร่อยกว่าลีโออีก


เด็กกากๆ ธรรมดา 


แล้วเราก็ถือเบียร์มากันที่โบสถ์เซนต์ปอลกันอีกรอบ
มาคราวนี้ไม่มีคนเยอะแล้วค่า แต่มีถ่ายรูปแต่งงานกันนิดหน่อย
เราก็เดินๆ ไปนั่งแถวนั้น และระหว่างทางที่เดินไป อิแพรก็อัดวีดีโออยู่
เราก็พูดไปว่า อีแพรมึงจะไปถ่ายป้าเค้าทำไมวะ แล้วคือพูดดังมาก
แต่ที่เงิบคือ อีแพรหันมาพูดว่า มึง เค้าเป็นคนไทยนะ 
เท่านั้นแหละ กุวิ่งเลยค่าาาา วิ่งหนี ฮาโคตรๆ เล่าคงไม่ฮา
แต่อยู่ในเหตุการณ์ฮา เพราะมีเรื่องกากๆ เกิดขึ้นเยอะ 
และคนไทยก็เยอะมาก บางทีปากมากไปอาจเจอคนไทยด่าได้
อย่าถือสาเด็กกากอย่างพวกเราเลยค่า


มาเก๊าจากอีกมุม
ความจริงบอกเพื่อนว่า ถ้าเรามีโอกาสได้นั่งรถเที่ยวรอบเมือง
ตอนกลางคืนจะสวยมาก เพราะคาสิโนต่างๆ จะเปิดไฟสวยแข่งกัน 
แต่ด้วยความที่พวกเรานั่งรถฟรีมาตลอด 
จะไปหารถฟรีที่ไหนนั่งชมวิวตอนดึกๆดีล่ะเนี่ย


เดินไปรอบๆ มาเก๊าสวยมาก ไฟส้มๆ 


เด็กกากนั่งไปทั่ว คือเมื่อยตลอดเวลา และร้อนมาก 


ปิดท้ายด้วยภาพกากๆ รูปนี้ 

เราได้ข้อคิดมาอย่างนึง ให้ฉุกคิดเล่นๆ ในวันนี้ ว่า :
เมืองมาเก๊า เค้าอาจจะยังไม่เจริญเท่าฮ่องกง แต่อะไรบางอย่างมันเจริญกว่าไทย
เช่น การขนส่ง เรื่องความสะดวกต่างๆ มันมีความสะดวกกว่าเมืองไทย
จะพูดตอนนี้มันก็ยังไม่ได้ เพราะเราไม่รู้เรื่องมาเก๊ามาก 
แต่เดี๋ยวตอนหน้าจะพูดอีกที เรื่องของฮ่องกง และความเทียบไม่ได้ของไทย
ไม่ได้ด่าประเทศไทยนะ แค่เป็นความเห็นจากเด็กคนนึง ที่อยากเห็นประเทศพัฒนา
แต่ท่าทางจะไม่มีวัน... หรืออาจจะอีกนาน เพราะการจะพัฒนาประเทศให้ดีได้
มันไม่ใช่แค่เทคโนโลยี หรือความล้ำอะไรเลย 

มันอยู่ที่จิตสำนึก และนิสัยของคนนั่นแหละค่า  


Music of the night : Dillon - Thirteen Thirtyfive

You Might Also Like

2 comments

  1. nice job!!!!! really wanna go for a trip with u

    ReplyDelete
  2. เที่ยวกันน่าสนุกดีนะ

    ReplyDelete