My diary
July 10, 2013เราคิดว่าในยุคสมัยนี้ มีเทคโนโลยีมากมายที่จะทำอะไรๆ ก็รวดเดียวปรื๊ดๆเสร็จ เราว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้คนเคยตัว ใจร้อน และสมาธิสั้นขึ้น ที่คิดแบบนี้เพราะเราว่าเราก็เป็น เดี๋ยวนี้เราคิดว่าความจำต่างๆ เริ่มเสื่อมๆลง ไม่ใช่ความจำเสื่อมนะ แค่นิสัยเคยตัวพวกนั้นเรากลัวว่ามันจะทำให้เราเคยตัวจนอยากได้อะไรทันๆด่วนๆจนเสียนิสัย จะพูดยังไงให้เข้าใจดี อย่างเช่นเรา whatsapp , Line , Facebook chat กับใครก็ตาม มันคนละอารมณ์กับการเขียนจดหมาย การคุยโทรศัพท์นะ เรากลัวว่าหลายคนจะเพิกเฉยและไม่ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อย ที่มาจากความรู้สึก...
โว้ยยิ่งพูดยิ่งงง งงมั้ย????
เราพยายามจะเขียนไดอารี่.. อาจจะไม่ยาวเหมือนที่เคยทำ เพราะด้วยงานหรือหน้าที่ต่างๆที่ต้องทำเยอะ แต่เขียนเอาไว้ วันนี้ไปไหน ทำอะไร มีอะไรพิเศษกว่าวันอื่นไหมอย่างไร
เพราะเราคิดว่าเรื่องเล็กน้อยมันน่าจดจำ เราอยากเขียนเพราะไม่อยากลืม ไม่อยากลืมจริงๆ ไม่ได้เพ้อนะ แต่อย่างน้อยก็อยากเป็นคนที่เอาไดอารี่ตัวเองมาอ่านแล้วยิ้มไปกับความทรงจำเก่าๆที่เคยมีมา
จนถึงทุกวันนี้ เรายังอยากเขียนอะไรสักอย่างให้คนที่เรารัก ไม่ว่าจะเพื่อน แฟน หรือคนในครอบครัว
เราคิดว่าสิ่งเหล่านั้นมีค่ามาก (แม่งไอโฟนมึงจะพิมยากไปไหนวะแม่งเอ๊ยเกลียด!!!!!)
อาจเป็นเพราะเราเป็นคนที่แสดงออกไม่ค่อยเก่ง
จึงต้องยกให้เป็นเรื่องของการเขียนแทน แสดงอารมณ์ ความรักและความรู้สึก บางข้อความเราอยากเขียนบอกเธอ อยากให้เธอเก็บไว้อ่านวันเหงาๆ หรืออีกสัก20ปีเธออ่านแล้วจะยังนึกถึงเรา
ต่อให้เราเจอกันทุกวันฉันก็จะเขียนอะไรสักอย่างให้เธอที่รัก :) (พูดรวมๆนะไม่ใช่แค่แฟน)
ตีสี่แล้วนอนมั้ย????
0 comments